ยาคุมกำเนิด
เป็นการคุมกำเนิดโดยการให้ฮอร์โมนเพื่อยับยั้งการตกไข่ทำให้ไม่เกิดการปฏิสนธิ
ข้อดีของการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน
- ยาคุมกำเนิดส่วนใหญ่ให้ผลดี
- ฮอร์โมนบางชนิดออกฤทธิ์ทันทีที่ได้รับยา
- ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ยาบางชนิดประจำเดือนหยุดเลย
- ฮอร์โมนจะลดอัตราการเกิดมะเร็งมดลูก
- สามารถร่วมเพศได้อย่างอิสระ
- ยาคุมบางชนิดใช้รักษาสิวได้
ข้อด้อยของยาคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน
- ได้รับฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกาย
- มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ คัดเต้านม น้ำหนักเพิ่ม
- โรคแทรกซ้อนที่รุนแรงอาจจะเกิดได้เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เนื้องอกในตับ เลือดแข็งตัวง่าย
- การใช้ฮอร์โมนไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ยาเม็ดคุมกำเนิดคืออะไร
ยาเม็ดคุมกำเนิด คือยาเม็ดที่ใช้กินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แบบชั่วคราวประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด คือ เอสโตรเจน และโปรเจสโตเจนจัดทำไว้เป็นแผงหลายชนิดแต่ละชนิดจะมีปริมาณตัวยาและจำนวนเม็ดไม่เท่ากัน เช่น 21,28 เม็ด ผู้ใช้ต้องกินอย่างต่อเนื่อง บางชนิดอาจหยุดยาเป็นช่วง เมื่อเลิกใช้ก็สามารถกลับมามีบุตรได้อีก เมื่อรับประทานยาครบสิบเม็ดจึงจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้
ประเภทของยาเม็ดคุมกำเนิด
- ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนระดับเดียว
- ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนหลายระดับ
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสโตเจน
- ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ใช้ภายหลังการร่วมเพศ
- การฉีดฮอร์โมน
- การฝังฮอร์โมน
อาการข้างเคียงของยาเม็ดคุมกำเนิด
ผลข้างเคียงที่พบได้คือ น้ำหนักตัวเพิ่ม สิว ฝ้า ผมร่วง ปวดศีรษะ อาการเหล่านี้จะเป็นในระยะเริ่มแรก ส่วนใหญ่หายได้เอง
- อาการคลื่นไส้อาเจียน มักพบช่วงแรกของการใช้ยา แก้ไขโดยให้กินยาคุมหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน แต่ถ้ามีอาการมากหรือเป้นอยู่นานควรปรึกษาแพทย์ แต่ถ้าใช้ระยะแรกไม่เกิดแล้วมาเกิดภายหลังอาจจะเกิดจากการตั้งครรภ์หรือโรคอื่น ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
- อาการเจ็บคัดเต้านม พบในระยะแรกของการรับประทานยา ซึ่งจะลดลงหรือหายไปในเวลาต่อมา
- เลือดออกกะปริดกะปรอย มักพบในระยะแรก หรือผู้ที่ลืมกินยาบ่อยแก้ไขโดยการกินยาอย่างสม่ำเสมอ
- ยาคุมกำเนิดจะทำให้ประจำเดือนมาน้อยลง ปวดประจำเดือนน้อยลง และป้องกัน cyst และเนื้องอกที่รังไข่และมดลูก
- การขาดระดูระหว่างการใช้ยา ควรตรวจให้แน่ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
ข้อระวังเมื่อใช้ยาคุมกำเนิด
หากท่านที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดและเกิดอาการเหล่านี้ควรหยุดยาและรีบพบแพทย์
- มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
- ตัวเหลืองตาเหลือง
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง จะเป็นลม เวียนศีรษะ
- ความดันโลหิตสูง
- มีอาการปวดและบวมเท้า และน่องให้สงสัยว่าเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ
- ปวดตา ตาพร่า เห็นแสงวูบวาบให้สงสัยว่ายาคุมกำเนิดทำให้ไมเกรนเป็นมากขึ้น
- มีอาการปวดหน้าอกและหายใจหอบ
- มีอาการซึมเศร้า
วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด
ชนิดแผง 21,22 เม็ด
เริ่มใช้ยาตั้งแต่วันที่ 1 ของรอบเดือน(วันแรกของประจำเดือน)ไม่เกินวันที่ 5 ของรอบประจำเดือน กินทุกวันจนหมดแผง ควรทานเวลาเดียวกันทุกวัน สำหรับชนิด 21 เม็ดให้หยุดยา 7 วัน หยุดยา 6 วันสำหรับชนิด 22 เม็ด ระหว่างหยุดยา 2-4 วันจะมีเลือดประจำเดือนมา เมื่อหยุดยาครบกำหนดให้เริ่มแผงใหม่ตามวิธีเดิม
ชนิดแผง 28 เม็ด
เริ่มกินยาในวันแรกของรอบประจำเดือน โดยเริ่มกินเม็ดแรกในส่วนที่ระบุบนแผงว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ยา และกินยาตามทิศทางที่ลูกศรกำกับจนหมดแผง และกินแผงใหม่โดยไม่ต้องหยุดยา
ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนหลายระดับ
ตัวยาแต่ละเม็ดจะมีขนาดฮอร์โมนไม่เท่ากัน จึงต้องกินยาตามลูกศรกำกับ เมื่อลืมกินยาต้องเลือดกินให้ตรงกับชนิดยาที่ลืม
การดูแลสุขภาพระหว่างการใช้ยา
ในระยะแรกควรพบแพทย์เพื่อซักถามข้อข้องใจ และปรึกษาเรื่องผลข้างเคียงของยา สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเบาหวานแพทย์จะเจาะเลือดตรวจน้ำตาลและไขมันในเลือด หลังจากนั้นควรตรวจสุขภาพปีละครั้ง
- ตรวจสุขภาพทั่วไป วัดความดันโลหิต
- การตรวจเต้านม
- การตรวจภายในและการตรวจมะเร็งปากมดลูก
ยาเม็ดคุมกำเนิดกับการเกิดเนื้องอก
ยาเม็ดคุมกำเนิดไม่มีผลทำให้ผู้ใช้มีโอกาสเกิดมะเร็งเพิ่มขึ้น เช่นมะเร็งเต้านม หรือเนื้องอกมดลูก และมีผลลดการเกิดเนื้องอกเต้านมชนิดไม่ร้ายแรง เนื้องอกรังไข่ชนิดไม่ร้ายแรง ส่วนมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับผลการศึกษายังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนเพราะการเกิดมะเร็งทั้งสองชนิดเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นๆด้วย ดังนั้นผู้ใช้ยาคุมกำเนิดไม่ควรวิตกกังวลในเรื่องผลของยากับมะเร็ง
ทำอย่างไรถ้าลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิด
ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ การลืมกินยาอาจจะทำให้เกิดผลเสีย เช่น ทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย ถ้าลืมบ่อยๆอาจเกิดการตั้งครรภ์ ดังนั้นควรกินยาเวลาเดียวกันทุกวัน และหากลืมกินยาให้แก้ไขดังนี้
- ลืมกินยาหนึ่งเม็ดให้กินทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดต่อไปตามปกติ
- ลืมกิน 2 เม็ดติดต่อกันในช่วง 2 สัปดาห์แรกให้กินยา 2 เม็ดติดต่อกัน 2 วัน แล้วกินต่อตามปกติจนหมดแผง ห้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
- ลืมกินยา 2 เม็ดติดกันในช่วงสัปดาห์ที่3 หรือลืมมากว่า 2 เม็ดในช่วงใดก็ตามให้หยุดยาแผงนั้นจนกว่าจะมีประจำเดือน จึงเริ่มแผงใหม่ ให้ใช้ถุงยางอนามัยหรืองดการร่วมเพศ
- ลืมกินยามากกว่า 2 เม็ดให้หยุดยาคุมแล้วใช้วิธีอื่นคุมกำเนิดเมื่อประจำเดือนมาจึงเริ่มใหม่
การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยา
เมื่อเริ่มคุมกำเนิดด้วยยาแผงแรก ทั้งในผู้ที่เริ่มใช้ หรือผู้ที่ต้องการใช้ใหม่หลังจากหยุดยาไปช่วงหนึ่ง ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ใน 2 สัปดาห์แรกต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นๆ เช่น การใช้ถุงยางอนามัยเพราะยาจะยังไม่ออกฤทธิ์ทันทีหลังจากนั้นสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ สำหรับยาแผง 21,22 เม็ดช่วงที่หยุดยาก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ตามปกติ
การใช้ยาคุมกำเนิดร่วมกับยาชนิดอื่น
ถ้ามีการเจ็บป่วยและได้รับประทานยาอื่นต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบ เนื่องจากมียาหลายชนิดที่อาจจะไปลดประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดได้ถ้านำมาใช้ร่วมกันเช่นยา penicillin tetracyclin และยาคลายเครียด การอาเจียนหรือถ่ายเหลวทำให้ยาออกฤทธิ์น้อยลง และอาจจะเป็นผลให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย จนถึงกับตั้งครรภ์นอกจากนั้นยาคุมกำเนิดอาจจะผลของยาที่ใช้ร่วมด้วยลดลง เช่นยารักษาลมชัก ยาปฏิชีวนะบางชนิด
การสูบบุหรี่กับยาคุมกำเนิด
การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่างๆจากยาคุมกำเนิดได้โดยทำให้เกิดภาวะดังต่อไปนี้
- ความดันโลหิตสูง
- การแข็งตัวเป็นลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ
- การทำงานของหัวใจผิดปกติ
จะทำอย่างไรเมื่อพร้อมจะมีบุตร
เมื่อพร้อมจะมีบุตรให้หยุดยาคุมกำเนิดได้ทันที และในระยะ 3 เดือนแรกหลังหยุดยาควรคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นเช่น การใช้ถุงยางอนามัย เพื่อจะได้ทราบอายุครรภ์ที่แน่นอน ร้อยละ80ของผู้ที่ใช้ยาคุมจะกลับมามีประจำเดือนเป็นปกติใน 3 เดือนร้อยละ90จะมีการตกไข่เป็นปกติใน1ปี ถ้าหลังหยุดยาคุมกำเนิดแล้ว 3 เดือนประจำเดือนยังไม่มาตามปกติควรปรึกษาแพทย์
ขณะรับประทานยาคุมกำเนิดแล้วเกิดการตั้งครรภ์จะส่งผลเสียต่อเด็กหรือไม่
ถ้าสงสัยว่าตั้งครรภ์ให้หยุดยาเม็ดคุมกำเนิดแล้วเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดเป็นอย่างอื่นแล้วปรึกษาแพทย์ ขณะที่รับประทานยาคุมกำเนิดเกิดการตั้งครรภ์ ทำให้เด็กได้รับฮอร์โมน ได้มีการศึกษาพบว่าเด็กที่เกิดมากจะปกติเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีส่วนน้อยมากที่เกิดมาผิดปกติแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดพิการแต่กำเนิด ถึงมีก็น้อยมาก
ยาเม็ดคุมกำเนิดกับการให้นมบุตร
แพทย์มักจะแนะนำให้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นในระยะ 6 เดือนแรก แต่ถ้าจะใช้ยาคุมกำเนิดแพทย์จะแนะนำใช้ชนิดที่มีฮอร์โมนน้อย และไม่มี estrogen
สาเหตุที่ตังครรภ์ขณะรับประทานยาคุมกำเนิด
ท่านที่ประสงค์จะคุมกำเนิดต้องเตรียมการคุมกำเนิดชนิดอื่นไว้สำรอง เพราะมีเหตุที่ทำให้ลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดดังนี้
- การลืมรับประทานยาคุมกำเนิด
- จากโรค เช่นอาเจียน ท้องร่วง
- จากยา มียาหลายชนิดที่ลดประสิทธิภาพของยา เช่น rifampicin ampicillin tetracyclin dilantin phenobarb
การเปลี่ยนยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมเป็นชนิดโปรเจสติน
หากท่านประสงค์จะเปลี่ยนจากชนิดฮอร์โมนรวมเป็นชนิดprogestin เนื่องจากผลข้างเคียงก็สามารถทำได้โดยรับประทานยาชนิดโปรเจสตินแทนชนิฮอร์โมนรวม โดยกินต่อจากเม็ดฮอร์โมนดังนั้นไม่ต้องรับประทานเม็ดแป้ง
เครดิต : http://www.siamhealth.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น